เมนู

สองบทว่า "อยํ วุจฺจติ" ความว่า บุคคลนี้ คือ ผู้เห็นปานนี้ ท่าน
เรียกว่า อุทกเลขูปโม แปลว่า ผู้เปรียบด้วยรอยขีดในน้ำ เพราะสนิทกัน
เร็ว ดุจรอยขีดในน้ำ.
บรรดาบุคคลเหล่านั้น บุคคลผู้เปรียบด้วยผ้าป่าน 3 จำพวก
เป็นไฉน ?

[94]

ผ้าป่าน 3 ชนิด คือ


1. ผ้า แม้ยังใหม่ ที่มีสีไม่ดี นุ่งห่มก็ไม่สบาย และมีราคาน้อย
2. ผ้า แม้กลางใหม่กลางเก่า ที่มีสีไม่ดี นุ่งห่มก็ไม่สบาย และมี
ราคาน้อยมาก
3. ผ้า แม้เก่า ที่มีสีไม่ดี นุ่งห่มก็ไม่สบาย และมีราคาน้อย คน
ทั้งหลายย่อมเอาผ้าผืนเก่า ๆ ทำเป็นผ้าเช็ดหม้อข้าวบ้าง เอาผ้าเก่านั้นไปทิ้ง
เสียที่กองหยากเยื่อบ้าง.
[95] บุคคลเปรียบด้วยผ้าป่าน 3 จำพวก เหล่านี้ มีปรากฏ
อยู่ในภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน.

บุคคล เปรียบด้วยผ้าป่าน 3 จำพวก เป็นไฉน ?
1. แม้หากว่า ภิกษุใหม่ผู้ทุศีลมีธรรมอันลามกเหมือนผ้าที่มีสีไม่ดีนั้น
แม้ฉันใด บุคคลนี้ก็อุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะว่า บุคคลนี้มีวรรณะชั่ว ส่วนคน
เหล่าใด ย่อมสมาคม ย่อมคบ ย่อมเข้าใกล้ ย่อมเอาอย่างบุคคลนี้ การเสพ
นั้นย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อทุกข์แก่คนเหล่านั้น
ตลอดกาลนาน ผ้าที่นุ่งห่มไม่สบายนั้น แม้ฉันใด บุคคลนี้ ก็อุปไมยฉันนั้น
นี้ก็เพราะว่าบุคคลนี้มีสัมผัสเป็นทุกข์ ก็บุคคลนี้รับจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ

คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ของคนเหล่าใดแล ทานของคนเหล่านั้นย่อมไม่มี
ผลมากย่อมไม่มีอานิสงส์มาก ผ้าที่มีราคาน้อยนั้น แม้ฉันใดบุคคลนี้ก็อุปไมย
ฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีราคาน้อย.
2. แม้หากว่า ภิกษุชั้นมัชฌิมะ ฯลฯ
3. แม้หากว่าภิกษุชั้นพระเถระ เป็นผู้ทุศีล มีธรรมอันลามก เหมือน
ผ้าที่มีสีไม่ดีนั้นแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็อุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีวรรณะชั่ว
ส่วนคนเหล่าใดย่อมสมาคม ย่อมคบ ย่อมเข้าใกล้ ย่อมเอาอย่างบุคคลนี้ การ
สมาคมนั้นย่อมเป็นไปเพื่อความไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความทุกข์แห่ง
ชนเหล่านั้นตลอดกาลนาน ผ้าที่นุ่งห่มไม่สบายแม้ฉันใด บุคคลนี้ก็อุปไมย
ฉันนั้น นี้ก็เพราะว่าบุคคลนี้มีสัมผัสเป็นทุกข์ ก็บุคคลนี้รับจีวร บิณฑบาต
เสนาสนะ คิลานปัจจัยเภสัชบริขาร ของคนเหล่าใด ทานของคนเหล่านั้น
ย่อมไม่มีผลมาก ย่อมไม่มีอานิสงส์มาก ผ้าที่มีราคาน้อย แม้ฉันใด บุคคลนี้
ก็อุปไมยฉันนั้น นี้ก็เพราะบุคคลนี้มีราคาน้อย หากว่าพระเถระเห็นปานนี้จะ
ว่ากล่าวในท่ามกลางสงฆ์ ภิกษุทั้งหลายก็จะกล่าวกับพระเถระผู้นั้นนั่นอย่างนี้
ว่า ประโยชน์อะไรด้วยคำกล่าวของท่านผู้โง่เขลาเบาปัญญา ถึงแม้ท่านจะ
สำคัญว่าควรกล่าวก็ดี พระเถระนั้นโกรธไม่พอใจก็จะเปล่งวาจาชนิดที่จะเป็น
เหตุให้สงฆ์ยกวัตร ดุจคนเอาผ้าไปโยนทิ้งเสียที่กองหยากเยื่อฉะนั้น บุคคลผู้
เปรียบด้วยผ้าป่าน 3 จำพวกเหล่านี้ มีปรากฏอยู่ในภิกษุทั้งหลาย.

อรรถกถาบุคคล 3 จำพวกที่อุปมาด้วยผ้าป่าน


บุคคล 3 จำพวกเหล่านั้นท่านเรียกว่า โปตฺถกูปมา แปลว่า ผู้เปรียบ
ด้วยผ้าป่าน ด้วยอุปมาใด เพื่อจะแสดงคำอุปมานั้นก่อน ท่านจึงกล่าวคำว่า
" ตโย โปตฺถกา" เป็นต้น. บรรดาบททั้งหลายเหล่านั้น บทว่า "นโว" ได้